วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เทพเจ้ากรีกในตำนาน

เทพเจ้ากรีกแห่งยอดเขาโอลิมปัส

        เทพโอลิมเปี่ยน (The Olympians / Major gods) เทพที่อาศัยบนยอดเขาโอลิมปัส Olympus มีทั้งหมด 12 องค์ แต่ถ้านับอย่างถี่ถ้วนจะมีทั้งสิ้น 16 องค์




        1. Zeus (Jupiter) – God of Universe : ซุส (ซีอุส/จูปิเตอร์)เป็นราชาของบรรดาเทพเจ้าทั้งหลายและเหล่ามนุษย์บนโลก มีอาวุธเป็น Thunderbolt (สายฟ้า)
พระองค์เป็นพระโอรสองค์สุดท้องของไททันโครนัส (Cronus) และไททันรีอา (Rhea) ในหลายๆ ตำนานกล่าวว่าพระองค์ได้สมรสกับเทพีเฮร่า (Hera) แต่ก็มีสถานศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองดอโดน่า (Dodona) ที่อ้างว่าคู่สมรสของเทพซุสแท้จริงแล้วคือเทพีไดโอเน่ (Dione) นอกจากนี้มหากาพย์อีเลียด (Illiad) ยังกล่าวไว้ว่าเทพซุสเป็นพระบิดาของเทพีอโฟรไดต์ (Aphrodite) ที่กำเนิดจากเทพีไดโอเน่อีกด้วย เทพซุสมักมีชื่อเสียงในพฤติกรรมนอกลู่นอกทางเรื่องชู้สาวของพระองค์ ซึ่งยังรวมไปถึงความสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มนามกานีเมดี้ (Ganymede) ด้วยเช่นกัน พฤติกรรมของพระองค์ทำให้เกิดผู้สืบเชื้อสายอยู่หลายองค์และหลายคนด้วยกัน อาทิเช่น เทพีอาธีน่า (Athena) เทพอพอลโล (Apollo) และเทพีอาร์ทีมิส (Artemis) เทพเฮอร์มีส (Hermes) เทพีเพอร์ซิโฟเน่ (Persephone) เทพไดโอนีซุส (Dionysus) วีรบุรุษเพอร์ซีอุส (Perseus) วีรบุรุษเฮอร์คิวลีส (Hercules) เฮเลนแห่งทรอย (Helen) กษัตริย์ไมนอส (Minos) และเหล่าเทพีมิวเซส (Muses) ส่วนผู้สืบเชื้อสายที่เกิดจากเทพีเฮร่าโดยตรงได้แก่เทพเอรีส (Ares) เทพีเฮบี (Hebe) และเทพเฮฟาเอสตัส (Hephaestus)
ซีอุสมีพี่น้องซึ่งเป็นเทพปกครองโลกร่วมกัน 5 องค์ ได้แก่ เทพโพไซดอน เทพีดีมิเทอร์ เทพีเฮร่า เทพฮาเดส และเทพีเฮสเตีย



2. Hera (Juno) – Goddess of Marriage & Birth : เฮร่า (จูโน) – ราชินีเทพ เทพีแห่งการแต่งงานและการให้กำเนิดทารกเป็น ราชินีแห่งสวรรค์ เป็นทั้งน้องสาวของซูสและเป็นภรรยาด้วย เฮร่าเป็นเทพีแห่งการให้กำเนิดทารก การสมรส และสตรี สัตว์ประจำพระองค์คือ นกยูง
มีโคลงบทหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า “เฮร่าเป็นราชินีแห่งบัลลังค์ทอง เป็นยอดแห่งสาวงาม และความสดใสกว่าบรรดาสตรีทั้งปวง ได้รับความเชื่อถือในถิ่นโอลิมปัส แม้แต่ซีอุสก็ต้องให้เกียรติเธอ”


3. Poseidon (Neptune) – Lord of the Oceans : โพไซดอน (จ้าวแห่งสมุทร)เทพเจ้าแห่งท้องทะเล สัญลักษณ์ของพระองค์คือ “สามง่าม” หรือ “ตรีศูล” ที่สามารถแหวกน้ำทะเลและทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้
เทพเจ้าแห่งท้องทะเลและมหาสมุทร ผู้ปกครองดินแดนแห่งท้องน้ำ ตั้งแต่แหล่งน้ำจืด เช่น แม่น้ำ ลำคลอง จนถึงใต้บาดาล มีสามง่ามเป็นอาวุธ บางตำนานกล่าวว่ามีท่อนล่างเป็นปลา นอกจากนี้แล้วยังถือว่าเป็นเทพแห่งแผ่นดินไหว และเป็นเทพแห่งม้าด้วย รูปลักษณ์ของโพเซดอน ส่วนมากจะปรากฏเป็นชายวัยกลางคน รูปร่างกำยำล่ำสัน มีหนวดเครา ถือสามง่ามเป็นอาวุธ ซึ่งสามง่ามนี้มีอิทธิฤทธิ์มาก สามารถดลบันดาลให้เกิดทะเลคลั่งหรือแผ่นดินไหวได้ ครั้งหนึ่งโพเซดอนเคยคิดที่จะโค่นอำนาจของซุส โดยร่วมมือกับเฮราและอะธีนา แต่ไม่สำเร็จ จึงถูกซุสลงโทษ โดยการให้ไปสร้างกำแพงเมืองทรอยร่วมกับอพอลโล โพเซดอนมีพาหนะเป็น “ม้าน้ำเทียมรถ”  ที่มีส่วนบนเป็นม้าและท่อนล่างเป็นปลา ซึ่งบางครั้งจะพบรูปโพเซดอนอยู่บนรถเทียมม้าน้ำนี้ขึ้นมาจากทะเล




 4. Demeter (Ceres) – Goddess of Harvest : ดีเมเทอร์ (เซเรส) – เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์และการเก็บเกี่ยว (แม่โพสพ)
เป็นเทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ เกษตรกรรม การเก็บเกี่ยว เทพีแห่งพันธุ์พืช ธัญญาหารและการเพาะปลูก มีธิดากับเทพซุสหนึ่งองค์คือ เทพีเพอร์ซิโฟเน



5. Hestia (Vesta) – Goddess of the Heart & the Hearth : เฮสเทีย (เวสต้า) – เทพีแห่งความรักและเทพีพรมจรรย์แห่งการครองเรือน
เท พีพรมจรรย์แห่งการครองเรือน เป็น 1 ใน 5 ของพี่น้องของซุส ในฐานะของเทพีผู้รักษาบ้าน พระนางเป็นผู้ที่สร้างบ้านขึ้นเป็นคนแรก วิหารของพระนางอยู่ที่กรุงโรม ซึ่งจะได้รับการบวงสรวงจากสาวพรหมจารี พระนางมีสัญลักษณ์เป็นไฟนิรันดร





6. Hades (Pluto) – God of Hell : ฮาเดส – เทพแห่งนรก (ยมราช)
หรือ ฮาเดส (อีกนามหนึ่งคือ เฮดีส Hedes) เทพแห่งใต้พิภพยมโลก เป็นจ้าวแห่งยมโลก เป็นผู้ปกครองพิภพบาดาลและโลกคนตาย มีเทพีเพอร์ซิโฟเนธิดาเทพีเซเรสเป็นมเหสี
ฮาเดสแท้ที่จริงแล้วเป็นเทพที่มีความยิ่งใหญ่อีกองค์หนึ่งเช่นเดียวกับ ซุส หรือ โพไซดอน เนื่องจากเป็นพี่น้องกัน แต่ทว่าความที่ฮาเดสเป็นผู้ปกครองนรกซึ่งเป็นโลกใต้ดินซึ่งมีแต่ความมืดมิด และน่ากลัว จึงไม่ใคร่ขึ้นไปยังเขาโอลิมปัส อีกทั้งเทพองค์อื่น ๆ ก็ไม่ใคร่ที่จะต้อนรับฮาเดสด้วย ดังนั้น ฮาเดสจึงไม่มีชื่อเป็นหนึ่งในเทพโอลิมปัสเฉกเช่นองค์อื่น ๆ
ฮาเดสได้ชื่อว่าเป็นเทพที่มีความเที่ยงธรรมอย่างมาก ตัดสินความดีชอบของคนตายโดยปราศจากอคติใด ๆ ทั้งสิ้น กล่าวกันว่า พระองค์มีหมวกวิเศษอยู่ใบหนึ่งที่สามารถทำให้ผู้สวมหายตัวได้ และพระองค์มีเทพผู้ช่วยในการตัดสินความดีชั่วในยมโลกอีก 3 องค์คือ ราดาแมนทีส, ไมนอส, ไออาคอส ที่เรียกว่า สามเทพสุภา และยังมี ฮิปนอส เทพแห่งการหลับไหล และ ทานาทอส เทพแห่งความตายคอยช่วยอีก
ชาวกรีกโบราณจะถวายการสักการะแด่ฮาเดสด้วยแกะดำ และเป็นพิธีกรรมที่เร้นลับสืบมาที่ได้ค่อนข้างยาก แต่ก็สืบทอดกันมาว่า หากจะบูชาเทพแห่งความตายหรือเทพอันใดที่เป็นสัญลักษณ์ของความน่ากลัวหรือ ชั่วร้าย ต้องบูชายัญด้วยแพะหรือแกะดำ



7. Ares (Mars) – God of War : เอเรส (มาร์ส) – เทพแห่งสงคราม
เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามและอาวุธและชุดเกราะ และเป็นหนึ่งในสิบสองเทพแห่งโอลิมปัสด้วย เป็นบุตรของซุส กับ เฮร่า สัตว์ประจำพระองค์คือเหยี่ยวและสุนัขมังกรไฟ
อาเรส เป็นเทพแห่งการสงครามเช่นเดียวกับ อธีน่า แต่ทว่าอธีน่าจะได้รับการยกย่องและบูชามากกว่า เนื่องจากอธีน่าเป็นเทพีที่ใช้สติปัญญาวางแผนในการสู้รบมากกว่า ซึ่งได้รับการบูชาในฐานะเทพีแห่งสติปัญญาด้วย ผิดกับอาเรสซึ่งมักจะใช้ความดุดันและโหดร้ายในการสงครามมากกว่า ซึ่งโฮเมอร์กวีเอกคนสำคัญของกรีกโบราณ ยังเคยเขียนถึงพระองค์ว่า เป็นเทพที่โหดร้ายและหยาบช้า
อาเรสเมื่อเสด็จไปไหน จะใช้รถศึกเทียมม้าฝีเท้าจัดมากมาย แสงเกราะและแสงศาตราวุธส่องแสงเจิดจ้าบาดตาผู้พบเห็น มีบริวารที่ติดสอยห้อยตามอยู่ 2 คนคือ ดีมอส (Deimos) :: ความกลัว กับ โฟบอส (Phobos) :: ความน่าสยองขวัญ บางตำนานก็กล่าวว่า ทั้งดีมอสและโฟบอสเป็นบุตรชายฝาแฝดของอาเรส


8. Apollo (Apollo) – God of Light & Music : อะพอลโล (เทพเจ้าแห่งการทำนาย กีฬา การรักษาโรคภัย เทพแห่งแสงและการดนตรี)เป็น เทพเจ้าแห่งการทำนาย กีฬา การรักษาโรคภัย การดนตรี และ เป็นเทพแห่งพระอาทิตย์ อะพอลโล  (Apollo)  บุตรชายคนโตของมหาเทพซีอุส เป็นหนึ่งใน 12 เทพแห่งโอลิมปัส เป็นบุตรของซีอุส จอมเทพแห่งสวรรค์และนางเลโต มีน้องสาวฝาแฝดชื่อ อาร์ทามิส (Artemis)  หรือ ไดอาน่า (ในโรมัน) อะพอลโลมีต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์คือ ต้นลอเรล Laurel สัตว์ศักดิ์สิทธิ์คือนกกาเหว่าและห่าน เครื่องดนตรีพระจำพระองค์คือพิณ วิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์อยู่ที่เดลฟี่ Delphi ซึ่งที่นั่นจะมีนักบวชคอยบอกคำทำนายของพระองค์ให้แก่ประชาชนที่มาสักการบูชา ในสงครามกรุงทรอย อะพอลโลมีบทบาทเป็นเทพที่รักษาชายฝั่งเมืองทรอย ที่เมืองเดลฟี่มีเทวสถานบูชาอพอลโลอยู่




9. Artemis (Diana) – Goddess of the Hunt : อาร์เทมิส (ไดอะน่า) – เทพีแห่งการล่า
เป็น เทพีแห่งดวงจันทร์และการล่าสัตว์ และเป็นเทพีแห่งความรักทางใจ เป็นบุตรีของซุสและ เทพีลีโต้ เป็นน้องสาวแฝดของอะพอลโล พระองค์เป็นเทพีพรหมจรรย์องค์หนึ่งใน 3 องค์ ภาพที่ผู้คนเห็นอยู่เสมอๆ คือพระองค์จะถือธนูและศร มีสุนัขติดตาม สวมกระโปรงสั้น บางครั้งอาจเห็นเธออยู่บนรถศึกเทียมด้วยกวางขาว
ตำนานการกำเนิดกล่าวว่าเป็นธิดาฝาแฝดของเทพซุสกับเทพีลีโต้ หรือ แลโตนา มีพี่ชายร่วมอุทรคือ เทพอะพอลโลซึ่งเป็นเทพแห่งพระอาทิตย์ เทพฝาแฝดทั้งสองถูกปองร้ายตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา เพราะเทพีเฮราซึ่งเป็นมเหสีเอกของเทพซุสเกลียดชังชายาน้อยของสวามีจึงลามไป ถึงบุตรที่เกิดจากอนุเหล่านั้นด้วย




10. Hermes (Mercury) – Herald of the God, Medicine, Shepherds, Travel, Merchants Weights&measures, Oratory&Literature, Speed&Athletics, Thieve : เฮอร์เมส (เมอร์คิวรี่) – เทพแห่งการสื่อสาร, การแพทย์, การเลี้ยงสัตว์, การเดินทาง, พ่อค้าและการชั่งตวง, สุนทรพจน์และวรรณกรรม, ความเร็วและการกีฬา, ขโมย
เป็น เทพแห่งการค้า การโจรกรรม และผู้ส่งสารของเหล่าทวยเทพ เป็นบุตรของซุส กับ มีอา พระองค์มักจะปรากฏกายในลักษณะสวมหมวกขอบกว้าง สวมรองเท้ามีปีก ถือคทาที่มีงูพัน


11. Athena (Minerva) – Goddess of Wisdom : เอเธน่า (มิเนอร์ว่า) – เทพีแห่งปัญญาและชัยชนะ
เป็น เทพีแห่งความเฉลียวฉลาด และศิลปศาสตร์ทุกแขนงของกรีกรวมถึงศิลปะการต่อสู้ด้วย ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์คือต้นมะกอก เทพีอธีน่า เป็นผู้ที่มอบมะกอกให้กับมนุษย์เป็นองค์แรก ทำให้เมือง Athens ได้ใช้ชื่อของพระองค์เป็นชื่อเมืองเพื่อเป็นเกียรติ
เอเธน่า (Athena)  หนึ่งในสิบสองเทพแห่งโอลิมปัส เทคพีแห่งวามเฉลียวฉลาด เพราะว่าบนไหล่ของเทพีเอเธน่าจะมีนกฮูกเกาะอยู่เสมอ นกฮูกเป็นสัตว์ที่มีความคล่องแคล่วแม้จะอยู่ในความมืด ความมืดนั้นเปรียบเสมือนปัญหาที่ทำให้เรามองไม่เห็น แต่นกฮูกสามารถมองเห็นในความมืดได้อย่างชัดเจน เปรียบเหมือน ความเฉลียวฉลาดในการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงไปได้
รวมถึงยังเป็นเทพีแห่งปัญญา เนื่องจากเกิดมาจากส่วนหัวของ ซุส ประมุขแห่งเหล่าทวยเทพ  และเชื่อว่าพระนางเป็นเทพีแห่งสงครามด้วย เนื่องจากเทวรูปของพระนางมักปรากฏเป็นรูปผู้หญิงสวมชุดเกราะ ถือโล่ห์และหอกที่มือซ้าย และถือไนกี้ เทพีแห่งชัยชนะที่มือขวา





12. Aphrodite (Venus) – Goddess of Love : อะโฟรไดท์ (วีนัส) – เทพีแห่งความรักและเสน่หา
เป็น เทพีแห่งความรักและความงาม เป็นบุตรีของซุส กับ เทพีไดโอนี่ (บางตำราว่าเกิดจากฟองคลื่น) สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของเธอได้แก่นกกระจอก นกนางแอ่น ห่าน และเต่า ส่วนดอกไม้และผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพระนางได้แก่กุหลาบ Myrtle และแอปเปิ้ล กล่าวกันว่าพระนางเป็นเทพีผู้คุ้มครองเหล่าโสเภณีด้วย





13. Hephaestus (Valcan) – God of Fire : เฮฟเฟตัส (วัลแคน) – เทพแห่งไฟ
เป็นเทพแห่งไฟ โลหะ และการช่าง เป็นบุตรของซุส กับ เฮร่า (บางตำราว่าเป็นบุตรของ Hera ผู้เดียว) พระองค์เป็นเทพที่พิการและอัปลักษณ์




14. Dionysus (Baccus) – God of Wine & celebrate : ดีโอนีซัส (แบคคัส) – เทพแห่งไวน์และการฉลอง
เป็นเทพแห่งไวน์ การทำไวน์ และการเก็บเกี่ยวผลไม้ และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นเทพแห่งละครอีกด้วย


15. Percephone (Perserpine) – Goddess of Sping : เพอร์เซโฟเน่ (เพอร์เซอร์ไพน์) – เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิ
เป็น เทพีแห่งฤดูใบไม้ผลิ เป็นบุตรีแห่งซุส และ ดีมิเทอร์ ธิดาของเทพีดีมิเทอร์ซึ่งถูกฮาเดสจับตัวไปเป็นภรรยาได้รับอนุญาตให้กลับขึ้น มาบนโลกได้ปีละไม่กี่ครั้ง และการกลับขึ้นมาแต่ละครั้งก็คือการเปลี่ยนฤดูนั่นเอง




16. Eros (Aurora) – God of Dawn : อีรอส (ออโรร่า) – เทพแห่งแสงรุ่งอรุณและเทพแห่งความรักคิว ปิด (Cupid) หรือ อีรอส (Eros) ถือเป็นเทพเจ้าแห่งความรักของโรมัน นิยมเรียกในภาษาไทยว่า “กามเทพ” มักวาดภาพเป็นเด็กชายตัวจ้ำม่ำ เปลือย มีกระบอกศรอยู่ข้างหลัง ในมือถือคันศร หรือกำลังน้าวศร
ตำนานการกำเนิดของคิวปิดส่วนใหญ่ที่ปรากฏบอกไว้ว่า เทพีวีนัสหรืออโฟรไดท์ ได้ลักลอบเป็นชู้กับเทพสงครามเอรีส (เนื่องจากฝ่ายหญิงได้สมรสแล้วกับเฮเฟสทัส เทพแห่งการช่าง แต่เทพีวีนัสไม่พอใจ เพราะเทพสวามีเอาแต่ขลุกตัวอยู่กับงานของตน อีกอย่าง พระนางก็พอใจเทพเอรีสมาแต่แรก แต่ที่ได้แต่งงานกับเทพเฮเฟสทัสเพราะเทพซีอุสยกพระนางให้เป็นรางวัลแก่เทพเฮ เฟสทัส)จนกระทั่งมีโอรส ให้นามว่า คิวปิด หรือ อีรอส
กล่าวกันว่า คิวปิดติดแม่มาก และเชื่อฟังแม่ทุกอย่าง เห็นเทพีวีนัสที่ใดก็ต้องมีโอรสคู่ใจอยู่ด้วยเสมอ แต่เวลาก็ล่วงเลยมานาน กามเทพที่สมควรจะเติบโตเป็นหนุ่มกลับไม่ยอมเติบโตขึ้นตามกาลเวลา เทพีผู้เป็นมารดาหนักใจมากจึงไปปรึกษาเทวีธีมิสแห่งความยุติธรรม พระนางจึงได้คำตอบว่าที่เป็นเช่นนี้เพราะคิวปิดเหงา ไม่มีเพื่อนเล่น หากคิวปิดมีน้อง กามเทพน้อยก็จะเติบโตเอง ไม่นานจากนั้น เทพีอโฟรไดท์ก็มีโอรสอีกองค์กับเทพเอรีส ให้นามว่า แอนตีรอส (เทพแห่งการรักตอบ) คิวปิดจึงเติบโตขึ้นตามเวลา แต่เหล่าศิลปินยังคงปั้นคิวปิดเป็นเด็กอยู่เช่นนั้นเอง




 ที่มา : http://www.thaistudyfocus.com